วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
คดี การฟ้องให้ระงับกระบวนการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา และให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี
และให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี
โดยผู้ฟ้องคดี
ตามที่ผู้ฟ้องคดีหกคน ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองระยอง เมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคม 2553 และศาลได้รับคำฟ้อง เมื่อวันพุธที่ 13 มกราคม 2553 เพื่อให้ศาลมีคำสั่งระงับกระบวนการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพาไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา และให้ศาลพิพากษาเพิกถอนประกาศคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี เรื่อง เกณฑ์คุณลักษณะและการให้น้ำหนักแต่ละเกณฑ์ในการพิจารณาสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ประกาศ ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 เนื่องจากประกาศคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีดังกล่าว ไม่ได้กำหนดน้ำหนักของหลักเกณฑ์การสรรหาแต่ละข้อ ตามข้อ 8 วรรคหนึ่งของข้อบังคับมหาวิทยาลัยบูรพา ว่าด้วยคุณสมบัติและการสรรหาอธิการบดี พ.ศ.2552 ที่กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาอธิการบดี ศึกษาและประเมินความต้องการของมหาวิทยาลัยตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยและความต้องการของหัวหน้าส่วนงานของมหาวิทยาลัยและผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยเพื่อประกอบการจัดทำหลักเกณฑ์การสรรหาและกำหนดน้ำหนักของหลักเกณฑ์การสรรหาแต่ละข้อ แต่เกณฑ์การให้น้ำหนัก ตามประกาศดังกล่าวนี้เป็นเกณฑ์เพื่อใช้ในการประเมินคุณลักษณะแต่ละด้านเท่านั้น มิใช่เป็นการกำหนดน้ำหนักของหลักเกณฑ์การสรรหาแต่ละข้อ
ศาลปกครองระยองได้มีคำสั่ง ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 เนื่องจากโดยนิตินัยไม่อาจถือได้ว่าผู้ฟ้องคดีทั้งหกเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายโดยตรงและเป็นการเฉพาะตัวจากการกำหนดหลักเกณฑ์และกำหนดน้ำหนักของหลักเกณฑ์การสรรหาแต่ละข้อ ผู้ฟ้องคดีทั้งหกจึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 - คณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 - นายกสภามหาวิทยาลัยบูรพาในฐานะผู้รักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับ
หมายเหตุ: ศาลปกครองระยองได้รับคำฟ้องของนายพิสิษฐ์ บึงบัว (อาจารย์วิทยาเขตสระแก้ว) ผู้ฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 4 คน เมื่อวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 3 คน
10 กุมภาพันธ์ 2553
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ชี้ชะตา ม.บูรพา จะอยู่หรือไป
โดย ผู้ฟ้องคดี
ตามที่ผู้ฟ้องคดีหกคน (ซึ่งเป็นข้าราชการ) ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองระยอง
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2551 เพื่อให้ศาลพิพากษาเพิกถอน ข้อบังคับมหาวิทยาลัยบูรพา
3 ฉบับ เนื่องจากทำให้ข้าราชการไม่มีสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคเท่าเทียมกับพนักงานมหาวิทยาลัย กล่าวคือ
(1) ทำให้ข้าราชการไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัย
ตามมาตรา 19 (5) ประเภทผู้แทนคณาจารย์ แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยบูรพา พ.ศ. 2550
(2) ทำให้ข้าราชการไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งบริหารของมหาวิทยาลัย
ทุกระดับ
ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ขัดหลักนิติธรรม ขัดหลักธรรมาภิบาลและไม่ชอบ
ด้วยกฎหมาย
บัดนี้ ศาลได้ นัดฟังคำพิพากษา ใน วันอังคาร ที่ 10 พฤศจิกายน 2552
เวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครองระยอง (ในบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดระยอง) ห้องพิจารณาคดี 2
รายงานความคืบหน้าจะรายงานต่อไปใน BLOGGER
วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551
วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
การออกนอกระบบของ ม.บูรพา
http://www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&cateid=08&action=view&id=031677
ซึ่งมีเนื้อหาน่าสนใจมากๆ และมีข้อเท็จจริงตรงประเด็นในปัจจุบัน จึงขออ้างอิงเอามาเขียนใน Blog นี้ครับ
การออกนอกระบบของ ม.บูรพา เรียน ท่าน อ.มีชัย ฤชุพันธุ์ ขอเรียนให้ท่านอาจารย์ทราบก่อนครับว่าผมเป็นอาจารย์อยู่ที่ ม. บูรพา ครับ เข้าเรื่องเลยนะครับ การออกนอกระบบของ ม.บูรพา มาจนถึงทุกวันนี้ ผมยังไม่เห็นถึงประโยชน์เลยครับ 1. วันก่อนผมพานิสิตไปรักษาตัวที่ศูนย์แพทย์ ของมหาวิทยาลัยครับ ปรากฏว่าต้องจ่ายเงิน ถึงแม้จะเป็นเงินกี่ร้อยบาท แต่ก็งงงงงนะครับ เพราะสมัยที่ผมเรียนผมไม่เคยต้องจ่ายเงินกับเรื่องประเภทนี้ครับ (ผมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยอื่นนะครับ) มหาวิทยาลัยมีกองทุนอะไรตั้งมากมายทำไมไม่ให้เค้าไปหักเงินกันเองละครับ ทำไมต้องให้นิสิตออกเงินไปก่อนแล้วค่อยไปเบิกเงิน ผมไม่เข้าใจจริงๆ 2. มหาวิทยาลัยนี้ไม่มีห้องถ่ายเอกสารข้อสอบครับ อาจารย์ต้องถือข้อสอบไปถ่าย กับร้านที่คณะมีข้อตกลงด้วย สงสัยกลัวข้อสอบรั่วครับ เลยให้อาจารย์เป็นผู้ควบคุมทุกขั้นตอน แต่ยังไงถ้าร้านถ่ายเอกสารทำข้อสอบรั่วแล้วเราจะทราบได้ยังไงครับ (แต่ว่ามหาวิทยาลัยอื่นเค้ามีกันทั้งนั้นนะครับ) ทำไมเค้าไม่ทำห้องถ่ายเอกสารข้อสอบขึ้นมา แล้วก็ให้เงินเดือนคนที่ทำหน้าที่นี้มากๆ ๆ ๆ ตั้งระเบียบให้เข้มงวดซิครับ ป้องกันข้อสอบรั่วไหล 3. ระเบียบเรื่องเงินเดือน บอกว่า เงินเดือนเป็นความลับขั้นสุดยอด แพร่งพรายไม่ได้ แต่ว่าทุกสิ้นเดือนจะมี Slip เงินเดือนที่พับไว้แล้วเย็บด้วย MAX วางไว้ให้ดูใน LOCKER ของทุกคนครับ ผู้บริหารมืออาชีพนะ เค้าทำงานหนัก องค์กรเค้ามีประสิทธิผล / ประสิทธิภาพ มีผลกำไร ผลประโยชน์ เห็นกันเป็นรูปเป็นร่าง การที่ได้รับเงินเดือนมากๆ นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร Good Governance หน่อยซิครับ 4. E - DOC จ้างบริษัทมาเขียนโปรแกรมซะแสนแพง แต่ไม่ได้ใช้ ไม่รู้ว่า โปรแกรมใช้ไม่ได้ หรือว่า คนไม่กล้าใช้โปรแกรม (http://doc.buu.ac.th) 5. ระบบการทำงานก็ยังคง เช้า 2 ชาม เย็น 1 ชาม เหมือนเดิม งานมี แต่คนมันจะไม่ทำซะอย่างจะทำยังไงได้ 6. วันก่อนผมเคยเข้าไปที่หน้าเวปของอธิการ เห็นมีนิสิตมาร้องเรียนเรื่องรถที่ใช้ทำกิจกรรม หน้าเวปเปิดให้ใช้มาตั้งนานแล้ว แต่มีเรื่องร้องเรียนเพียง 1 เรื่อง 7. มหาวิทยาลัยต้องตั้งกองทุนการเงินเกี่ยวกับพนักงานขึ้นมา แต่ผมว่าลองคิดให้ดีนะครับ AIG / เลห์แมนบราเธอร์ ยังล้มเลย นับประสาอะไรกับกองทุนเล็กๆ ที่ตั้งโดยมหาวิทยาลัย ที่อิงกับระบบราชการทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม 8. สิ่งที่มหาวิทยาลัยได้ภายหลังจากออกนอกระบบ คือ ผมขอเสนอว่าควรมีการประเมินการออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย โดยวิธีปกปิดตัวผู้ให้ข้อมูลครับ ผมมาเรียนให้ท่านทราบเนื่องด้วยว่าท่านอาจารย์เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย ครับ ไม่รู้ว่าผมจะถูกเปิดเผยที่มาด้วยระบบไฟล์ log ของระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่ครับ |
คำตอบ | ||
|